เครนไฟฟ้าวิ่งใต้ราง (Underhung crane หรือ Under-running crane)
เป็นเครนที่มีลักษณะพิเศษโดยการติดตั้งและวิ่งอยู่ใต้ราง
ที่ยึดอยู่กับโครงสร้างเพดานหรือคานหลักของอาคาร
นี่คือลักษณะโดยละเอียดของเครนชนิดนี้:
1. การติดตั้งราง
รางของเครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางจะถูกติดตั้งใต้โครงสร้างเพดาน
หรือคานหลักที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของเครน
รางเหล่านี้จะเป็นทางวิ่งสำหรับเครนที่เลื่อนไปมา
2. โครงสร้างเครน (Bridge)
ตัวโครงสร้างหลักของเครนประกอบด้วยคานที่เรียกว่า "สะพาน" (Bridge)
ซึ่งเชื่อมอยู่กับรอกและระบบเคลื่อนที่ ตัวสะพานนี้จะวิ่งไปมาบนรางเพื่อครอบคลุม
พื้นที่ทำงานในแนวราบ
3. รอกไฟฟ้า (Electric Hoist)
รอกไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งใต้สะพานและใช้ในการยกหรือลดน้ำหนัก
สามารถควบคุมการทำงานผ่านระบบควบคุมไฟฟ้า รอกนี้อาจใช้รอกโซ่
หรือรอกสลิง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับน้ำหนักและประเภทงาน
4. ระบบเคลื่อนที่ (Trolley)
ระบบเคลื่อนที่ประกอบด้วยชุดล้อที่ทำหน้าที่วิ่งไปมาตามแนวยาวของราง
ช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆ ในพื้นที่ทำงานได้
นอกจากนี้ยังมีแคร่ยก (Hoist trolley) ที่เคลื่อนที่ตามแนวกว้างของสะพาน ทำให้เครนสามารถเคลื่อนที่ในทั้งสองแกน (X และ Y)
5. การยึดติดกับโครงสร้างอาคาร
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางจะถูกยึดติดกับโครงสร้างเพดานหรือคานหลักของอาคาร
ดังนั้นโครงสร้างเหล่านี้จะต้องแข็งแรงและออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักของเครนและโหลดที่จะยก
6. พื้นที่ทำงาน
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางมีความยืดหยุ่นในการใช้งานในพื้นที่กว้าง
เพราะสามารถครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของพื้นที่ทำงานได้
ขึ้นอยู่กับความยาวของรางและขนาดของเครน
7. ความสามารถในการยกน้ำหนัก
เครนชนิดนี้สามารถยกน้ำหนักตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับปานกลางถึงหนัก
ขึ้นอยู่กับการออกแบบของเครน รอก และโครงสร้างของรางที่รองรับ
8. ระบบควบคุม
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางมักจะควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรลหรือ
แผงควบคุมแบบสาย ทำให้การควบคุมรอกและการเคลื่อนที่ของเครน
สะดวกและปลอดภัย
9. ความสูงของการยก (Headroom)
เนื่องจากรอกจะถูกติดตั้งใต้สะพานเครน ทำให้เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางเหมาะ
สำหรับสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัดในแนวตั้ง เพราะเครนชนิดนี้จะไม่ต้องใช้พื้นที่
สูงมากเท่าเครนที่รอกอยู่เหนือสะพาน
10. ข้อได้เปรียบเรื่องความยืดหยุ่น
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางมีความยืดหยุ่นมากกว่าบางระบบ เพราะสามารถติดตั้ง
ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านความสูง และไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่
แข็งแรงเท่ากับเครนวิ่งบนรางแบบ Overhead Crane
11. การใช้งานเฉพาะด้าน
เครนชนิดนี้มักใช้ในโรงงานหรือพื้นที่ที่ต้องการระบบยกน้ำหนักแต่มีพื้นที่จำกัด
ด้านความสูง เช่น โรงงานประกอบชิ้นส่วนหรือการขนย้ายในคลังสินค้า
การออกแบบและการใช้งาน
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางมักถูกออกแบบให้เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการการยก
หรือเคลื่อนย้ายสินค้าและวัสดุภายในโรงงานที่มีเพดานต่ำ แต่ต้องการการ
เคลื่อนไหวอย่างอิสระทั่วพื้นที่
ส่วนประกอบหลักของเครนไฟฟ้าวิ่งใต้ราง
1. ราง (Runway Rail)
รางวิ่งใต้รางถูกติดตั้งไว้ใต้โครงสร้างเพดานหรือคานของอาคาร
ทำหน้าที่เป็นเส้นทางสำหรับเครนวิ่งไปมา รางนี้ต้องมีความแข็งแรง
เพียงพอเพื่อรองรับน้ำหนักของเครนและโหลดที่ยก
2. คานสะพานเครน (Bridge)
คานสะพานเครนเป็นส่วนที่พาดอยู่บนราง ช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนที่
ตามแนวยาวของรางสะพาน คานสะพานมีความยืดหยุ่นในการเคลื่อน
ย้ายรอกไปในแนวขวางของพื้นที่ทำงาน
3. รอก (Hoist)
รอกเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการยกและลดโหลด รอกมัก
จะเป็นรอกไฟฟ้าและติดตั้งอยู่ใต้สะพานเครน
สามารถใช้รอกโซ่หรือรอกสลิงตามน้ำหนักของโหลดที่ต้องการยก
4. รถเข็นรอก (Hoist Trolley)
รถเข็นรอกติดตั้งรอกไว้บนตัวรถเข็นที่สามารถเคลื่อนที่ไปมา
ตามแนวสะพานเครน ช่วยให้รอกสามารถเคลื่อนที่ไป
ในแนวขวางของพื้นที่ทำงาน
5. ล้อเลื่อน (End Trucks)
ล้อเลื่อนเป็นส่วนที่เชื่อมต่อสะพานเครนกับราง ช่วยให้สะพานเครน
เคลื่อนที่ไปตามรางได้อย่างราบรื่น โดยล้อเลื่อนเหล่านี้มักทำจาก
วัสดุที่ทนทานและแข็งแรง
6. ระบบควบคุม (Control System)
ระบบควบคุมช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานของเครน
เช่น การยก การลด หรือการเคลื่อนที่ในแนวราบ ระบบควบคุม
สามารถเป็นแบบรีโมทไร้สายหรือแบบมีสายได้
7. ตะขอยก (Hook)
ตะขอเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับโหลด มีหลากหลายขนาด
และประเภท ขึ้นอยู่กับชนิดของโหลดที่จะยก
ข้อจำกัดของเครนไฟฟ้าวิ่งใต้ราง
1. การรับน้ำหนักที่จำกัด
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางมักจะรับน้ำหนักได้น้อยกว่า
เครนแบบวิ่งบนราง (Top-running crane) เนื่องจากข้อจำกัดของ
โครงสร้างเพดานที่รับน้ำหนัก ทำให้ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้อง
ยกน้ำหนักมาก
2. การพึ่งพาโครงสร้างเพดาน
เครนวิ่งใต้รางต้องอาศัยโครงสร้างเพดานที่แข็งแรง
หากโครงสร้างไม่มั่นคงหรือไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับเครน
น้ำหนักของเครนและโหลดอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
จึงจำเป็นต้องตรวจสอบโครงสร้างเพดานก่อนติดตั้ง
3. ความสูงของการยก (Limited Headroom)
เนื่องจากเครนวิ่งใต้รางติดตั้งใต้เพดาน ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่อง
ของความสูงที่สามารถยกได้ หากต้องการยกสิ่งของขึ้นไปในระดับสูงมาก
เครนชนิดนี้อาจไม่เหมาะสม
4. ความยากในการขยายระบบ
เมื่อเครนถูกติดตั้งแล้ว การขยายระบบเครนหรือเพิ่มรางวิ่งอาจมีความยุ่งยาก
เพราะต้องปรับโครงสร้างเพดานหรือคานรองรับเครนใหม่
อาจทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูง
5. ข้อจำกัดในการเคลื่อนที่
เครนชนิดนี้มีการเคลื่อนที่ในแนวราบตามรางใต้เพดานเท่านั้น
การเข้าถึงพื้นที่ที่อยู่ห่างจากรางเป็นไปได้ยากกว่าเครนเคลื่อนที่ (Mobile crane)
6. ความซับซ้อนในการบำรุงรักษา
การบำรุงรักษาอุปกรณ์และรางที่ติดตั้งบนเพดานอาจทำได้ยากกว่า
ระบบเครนที่ติดตั้งบนพื้น เพราะต้องใช้ความระมัดระวังและอุปกรณ์
ที่เหมาะสมในการเข้าถึง
7. ข้อจำกัดของพื้นที่ใช้งาน
เครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางเหมาะกับสถานที่ที่มีพื้นที่เพดานสูงไม่มากนัก
หากต้องใช้ในพื้นที่ที่มีเพดานสูงและพื้นที่เปิดกว้างมาก
อาจไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดได้
การพิจารณาข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้การใช้งานเครนไฟฟ้าวิ่งใต้รางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 034-479-976 , 034-479-586
สายด่วน: ประเสริฐฐ์ โทร. 061-497-8264
